เที่ยวอำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน หลวงพระบางเมืองไทย

< เรื่องโดย… ลลิตา ศิริไพบูลย์ >

กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ มีเมืองเล็กๆ แสนสงบในหุบเขาแห่งหนึ่ง ที่แม้จะอยู่ไกลแสนไกล แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยยอมดั้นด้นเดินทางไปถึง เพื่อจะได้สัมผสความงามแบบที่ลือกันว่าเป็น “หลวงพระบางเมืองไทย” และเพื่อไปให้เห็นกับตาว่า เมืองแห่งความสุขที่ว่ากันว่าแม้แต่สุนัขยังยิ้มนี้มีอยู่จริง หรือว่าเป็นแค่เรื่องขี้จุ๊ตาลาลา

เพียงไม่ถึง 200 กิโลเมตรจากด่านชายแดนห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือในเขตประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ณ จุดที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำคานไหลมาบรรจบกัน เป็นที่ตั้งของเมืองมรดกโลก หลวงพระบาง ที่ประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่า มีความเกี่ยวเนื่องเป็นเมืองพี่เมืองน้องเมืองน่านนับตั้งแต่เมื่อครั้งก่อตั้งเมือง ในราวสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช แห่งกรุงสุโขทัยนู่น

แม้พี่หลวงพระบางและน้องน่านจะถูกพรมแดนของทั้งสองประเทศกั้นกลางมานานนับศตวรรษ แต่ทั้งสองเมืองก็ยังมีความเชื่อมโยงกันในหลายๆ ด้าน ทั้งศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และเศรษฐกิจตลอดมา

หากภาพติดตาของการเยือนเมืองหลวงพระบางคือวัด จำนวนนับไม่ถ้วนเรียงรายอยู่ต่อกันแทบทุกหัวและท้ายถนน พระสงฆ์จำนวนนับร้อยนับพันรูปออกเดินบิณฑบาตเรียงรายเป็นสายสีส้มทองอร่าม ชวนให้จิตใจสงบและเป็นสุข ในทุกๆ เช้าชาวบ้านมารวมตัวพบปะ ยิ้มแย้มทักทายและเสวนากันสบายๆ เนิบๆ และชิลๆ ณ ริมน้ำโขงและริมน้ำคาน เมืองน่านเองก็มีภาพแห่งความสุขสงบและเรียบง่ายที่งดงามไม่ต่างไปจากกัน

เฉพาะในเขตอำเภอเมืองน่านก็มีวัดอยู่ไม่ต่ำกว่า 60 แห่งเข้าไปแล้ว ทุกๆ เช้าตรู่ เหล่าภิกษุและสามเณรจะออกเดินบิณฑบาตทั่วเมืองให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมทำบุญ ชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อข้าวปลาอาหารที่ตลาดเช้าพร้อมใจกันทำบุญถวายพระสงฆ์ รับพร และแยกย้ายกันไปเริ่มต้นวันใหม่อย่างอิ่มอกอิ่มใจ แม่น้ำน่านมีหมอกลอยเรี่ยผิวน้ำ ตลอดริมฝั่งน้ำมีผู้คนมาออกกำลังกายและดื่มดํ่าบรรยากาศยามเช้าอันสดชื่น ฝูงนกนางแอ่นบินถลาเล่นลมกันอย่างสนุกสนาน ร้านรวงทยอยเปิดและเริ่มกิจกรรมต่างๆ ของวัน เด็กน้อยจูงมือกันเดินไปโรงเรียน พร้อมกับแสงสีทองที่เริ่มฉายชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อดวงอาทิตย์ของวันใหม่ได้พ้นขอบเขาขึ้นมา

โรงเรียนหลายแห่งที่นี่ยังคงกำหนดให้นักเรียนแต่งชุดพื้นเมือง (ชุดของชาวไทลื้อ) มาเรียนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน บางวันเราจึงได้เห็นเด็กน้อยพร้อมใจกันนุ่งผ้าทอสีสดใส ใบหน้าเปื้อนยิ้ม บ่งบอกถึงความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของตน เหล่าครูอาจารย์และผู้หลักผู้ใหญ่พากันนุ่งผ้าทอมือลายน้ำไหล เอกลักษณ์ของเมืองน่านที่งดงามจนได้รับการยกย่องว่าเป็นราชินีแห่งความงามของลายผ้าเมืองเหนือ และที่น่าชื่นชมก็คือ เกือบทุกวันจะมีกลุ่มเยาวชนและนักกีฬาพายเรือทั้งหญิงและชายมาซ้อมพายเรือในลำน้ำน่านกันตั้งแต่ตอนเย็นไปจนค่ำ หากไปนั่งริมน้ำช่วงตั้งแต่ราวสี่โมงเย็นเป็นต้นไป จะได้เห็นพลังความสามัคคีของเหล่านักพาย เสียงร้องตะโกนนับฝีพายดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงตามจังหวะที่พายแตะผืนน้ำ เด็กๆ เอาจริงเอาจังกันจนคนที่ดูอยู่ริมน้ำอดจะร้องเชียร์ดังๆ ขึ้นมาบ้างไม่ได้ เพราะคนดูก็ลุ้นมัน (ส์) พ่ะย่ะค่ะเหมือนกัน บรรยากาศการซ้อมแข่งเรือนี้เองที่ทำให้ริมน้ำน่านเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุขในทุกๆ เย็น

น่านเป็นเมืองเล็ก แหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ แทบทั้งหมดอยู่ใกล้กันในระยะเดินถึงหรือขับขี่รถไปไม่ไกล ถ้าสังขารคุณยังพอสู้ไหว จะลองขี่จักรยานเที่ยวดูก็ดีนะ เพราะนอกจากช่วยลดมลพิษแล้ว แน่นอนว่าทำให้สุขภาพคนขี่ดีขึ้นด้วย

น่าดีใจที่เทศบาลเมืองพยายามสนับสนุนให้น่านเป็น “เมืองจักรยาน” ถนนหลายสายในเมืองน่านจึงมีเลนจักรยานหรือ Bike Lane และมีการรณรงค์ให้ชาวเมืองหันมาใช้จักรยานเป็นพาหนะ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากประชาชนทั่วไปเป็นอย่างดี คนที่นี่ขี่จักรยานกันจริงจัง ภาพที่เห็นกันจนชินตาแถวย่านเมืองเก่า โดยเฉพาะในตอนเช้าของวันเสาร์และวันอาทิตย์ จึงเป็นภาพของขบวนรถจักรยานจำนวนหลายสิบไปจนถึงนับร้อยคัน สีสันสดใสทั้งรถและคนขี่ แล่นเป็นสายไปตามถนนต่างๆ รอบเมือง นักท่องเที่ยวก็ขี่จักรยานเที่ยวชมเมืองเก่าและวัดวาอาราม ส่วนชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านที่มารวมตัวกันก็พากันขี่เที่ยวไปจนถึงรอบนอกเมืองและอำเภอใกล้เคียง เช่น อำเภอเวียงสาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล

โปรแกรมท่องเที่ยวเมืองน่านควรเริ่มจากการไปศึกษาข้อมูลท่องเที่ยวและเก็บเกี่ยวเอกสารอันเป็นประโยชน์ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวซึ่งเทศบาลเมืองน่านเขาจัดไว้ให้ พอได้ข้อมูลปึ้กพอแล้วก็ออกมาไหว้พระนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และชมจิตรกรรมฝาผนังอันโด่งดังที่วัดภูมินทร์

พี่หลวงพระบางมีวัดเชียงทองเป็นวัดโดดเด่นของเมือง น้องน่านก็มีวัดภูมินทร์ที่งดงามเป็นสมบัติล้ำค่าของเมืองเช่นกันนะคะ

วัดภูมินทร์นับเป็นวัดที่แปลกกว่าวัดอื่นๆ เพราะสร้างโบสถ์และวิหารรวมอยู่ในอาคารทรงจัตุรมุขหลังเดียวกัน ใจกลางอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่สี่องค์ หันพระพักตร์ออกสู่ประตูขนาดใหญ่ทั้งสี่ทิศซึ่งได้รับการแกะสลักอย่างวิจิตรสวยงาม ดังนั้นไม่ว่าจะเดินเข้าโบสถ์ด้วยประตูทางทิศไหนก็จะพบพระพักตร์ของพระพุทธรูป และที่โดดเด่นที่สุดก็คือภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณด้านในอุโบสถที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และสวยงาม วัดภูมินทร์จึงทั้งงดงามล้ำคุณค่า และโดดเด่นเป็นหนึ่งเดียวจนได้รับเลือกให้เป็นวัดแรกในต่างจังหวัดที่ไปปรากฏบนธนบัตรใบละ 1 บาทในสมัยรัชกาลที่ 8

ออกจากวัดภูมินทร์ ข้ามฝั่งถนนไปจะเจอกับกาดหมั้ว คัวศิลป์ ที่ทุกวันศุกร์และเสาร์จะมีสินค้าพื้นเมือง งานหัตถกรรม งานศิลปะ และผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก ให้นักท่องเที่ยวมาเลือกซื้อกระจายรายได้กันตั้งแต่เก้าโมงเช้ายาวไปถึงสามทุ่ม เมื่อช็อปกันพอกระเป๋าแฟบแล้วก็ไปชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ชมคุ้มเจ้าราชบุตร หรือบ้านเจ้าเมืองเก่า สักการะหลักเมืองน่าน นมัสการสิ่งศักดิ์สทธิ์และชมสถาปัตยกรรมตามวัดต่างๆ ในเขตเมืองเก่า หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่ารอบวัดสำคัญๆ ในเมืองน่านนั้นไม่มีสายไฟพาดรุงรังให้รกตารำคาญใจ เพราะได้มีการนำสายไฟฟ้าที่เคยระโยงระยางอยู่รอบสถานที่สำคัญลงฝังดินเรียบร้อยโรงเรียนเทศบาลเมืองแล้ว เมื่อถ่ายภาพออกมาจึงเห็นสถาปัตยกรรมล้ำค่าได้แบบเต็มตา เห็นท้องฟ้าใสกิ๊ก เกลี้ยงเกลา ไม่มีเส้นสายอันไม่พึงประสงค์มาเกะกะให้ต้องพึ่งโฟโต้ช็อปอีกต่อไป

จบทัวร์ชุดใหญ่ในเขตสะดือเมืองเก่าแล้ว ก็แวะพักกินอาหารพื้นเมืองหนุนท้องกันหน่อย เติมกาแฟสดเพิ่มความกระฉับกระเฉง แล้วไปเที่ยวชมบ้านเรือนและสัมผัสวิถีชีวิตของคนน่านรอบนอกเมือง ข้ามแม่น้ำน่านด้วยสะพานพัฒนาภาคเหนือ ไปนมัสการพระธาตุแช่แห้งอันโด่งดัง คนเกิดปีเถาะไม่ควรพลาดโปรแกรมนี้ด้วยประการทั้งปวง เพราะพระธาตุแช่แห้งถือเป็นพระธาตุประจำปีเถาะนั้นเอง

พี่หลวงพระบางมี “พูสี” ให้ไต่ขึ้นไปชมวิว น้องน่านก็มี “เขาน้อย” ให้ขนไปดูทิวทัศน์แบบ Bird’s-eye View เหมือนกันค่ะพี่น้อง

จากวัดพระธาตุแช่แห้ง ข้ามแม่น้ำกลับมาแล้วออกนอกเมืองไปทางตะวันตก เพื่อไปวัดพระธาตุเขาน้อยบนยอดเขาน้อย จะขับขี่รถหรือจะจอดไว้ด้านล่างแล้วเดินขึ้นบันไดพิสูจน์ความฟิตขึ้นไปก็ได้ แค่ 303 ขั้นเท่านั้นเอ๊ง

แวะนมัสการพระธาตุเขาน้อยแล้วก็ชิลๆ ชมวิวเมืองน่านจากยอดเขา จากจุดนี้ จะเห็นวิวงามๆ แบบพานอรามาของเมืองน่านในอ้อมกอดของขุนเขาที่ฉาบทาด้วยแสงสีทองอร่ามของดวงอาทิตย์ยามเย็น ตรงจุดนี้ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่านที่หันพระพักตร์ออกไปยังเมืองน่านด้านล่าง เหมือนคอยปกปักรักษาและประทานพรให้เมืองอันสงบสุขแห่งนี้คงอยู่สร้างความสุขให้ชาวเมืองตลอดไป

หลังจากนี้หากมีเวลาเหลือก็แวะไปเยี่ยมชมโรงแรมพูคาน่านฟ้า หรือไปเดินกาดน่าน ตลาดเก๋ๆ ที่รวบรวมทั้งแกลเลอรี่ ร้านค้า และร้านอาหารมาไว้ในที่เดียว และถ้าไปแอ่วน่านในวันเสาร์ หลังมื้อเย็นลองไปเดินเล่นถนนคนเดินที่กาดกองน้อย ในซอยข้างวัดหัวเวียงใต้ ได้อารมณ์ใกล้เคียงไปเดินเที่ยวตลาดมืด (ที่แสนจะสว่าง) ของหลวงพระบางอยู่นะ

นอกจากการขี่จักรยานและขับรถแล้ว อีกทางเลือกหนึ่งในการเที่ยวชมเมืองเก่าน่านที่น่าสนใจก็คือ การนั่งรถรางที่ทางเทศบาลเมืองน่านจัดไว้บริการนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปให้ได้เพลิดเพลินกับการสำรวจเมืองเก่า โดยมีไกด์นำเที่ยวคอยบรรยายข้อมูลน่ารู้ต่างๆ ตลอดการเที่ยวชม หรือถ้ายังรู้สึกว่าเที่ยวไม่อิ่มพอ จะลองใช้บริการสามล้อถีบสไตล์ไทยแต๊ๆ หื้อถีบพาท่านชมเมืองแบบตามสั่งก็ได้เช่นกัน อยากจะแวะไหว้พระหรือช็อปกระจายที่ไหนนานเป็นพิเศษ หรืออยากจะลัดเลาะไปตามตรอกเล็กซอยน้อยของเมืองน่าน ใกล้ไกลแค่ไหน นักถีบแข้งทองของท่านก็จัดให้ได้ รับรองว่าได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวน่านแบบม่วนจ๊าดนัก นับเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่น่าปรบมือให้ เพราะช่วยให้รถสามล้อถีบและอาชีพถีบสามล้อของพ่ออุ๊ยทั้งหลายห่างไกลจากความเป็นตำนานไปได้อีกประมาณหนึ่ง

พี่หลวงพระบางได้รับเลือกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของมวลมนุษยชาติด้วย เหตุผลคือ มีวัดวาอารามเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีมากมาย มีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์ท่ามกลางธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ชาวเมืองยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตร และรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมที่งดงาม ซึ่งจะว่าไปแล้วน้องน่านของเรา ก็มีคุณสมปติเพียบพร้อมไม่ด้อยไปกว่ากันเท่าไร

จังหวัดในอ้อมกอดขุนเขาแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่ประเพณีและศิลปวัฒนธรรมที่แฝงไปด้วยแรงศรัทธาแห่งพระพุทธศาสนา ตลอดจนภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเท่านั้น น่านยังอุดมไปด้วยป่าไม้และแหล่งน้ำที่ไหลยาวไกลมาจากเทือกเขาหลวงพระบางและเทือกเขาผีปันน้ำ ผืนป่าที่นี่สมบูรณ์จนสามารถจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติได้ถึงเจ็ดแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็งามแต๊ๆ เจ้า

น่านเป็นแหล่งพันธุ์ไม้ที่พบเป็นแห่งแรกและเพียงแห่งเดียวในโลก นั่นคือ “ชมพูภูคา” มีทรัพยากรธรรมชาติที่เอื้อต่อการทำกิจกรรมท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการล่องแก่งลำน้ำว้าในเขตอุทยานแห่งชาติแม่จริม ที่จัดว่าสนุกที่สุดแห่งหนึ่งของไทย มีพญาเสือโคร่งบานปกคลุมยอดดอยขุนสถานเป็นสีชมพูสวยหวานตระการตา มีประติมากรรมธรรมชาติเสาดินสุดวิจิตรที่อำเภอนาน้อย ใครอยากเดินป่าก็ไปท่องอลังการขุนเขาของเมืองน่านและพิชิตยอดดอยภูแว สูดโอโซน ชมทะเลหมอกและสัมผัสความหนาว ณ ยอดดอยวาว ดอยเสมอดาว และผาชู้กันได้ หรือจะเที่ยวชมศูนย์ภูฟ้าพัฒนา ตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่ออุดหนุนผลิตภัณฑ์โครงการหลวงและอื่นๆ อีกมากมาย ร่ายไม่หมด เอาเป็นว่า ถ้าจะเที่ยว “จังหวัดน่าน” ให้ครบถ้วนกระบวนลั้นลาจริงๆ เห็นจะต้องใช้เวลานับเดือน

แม้วันนี้น่านจะยังไม่ใช่เมืองมรดกโลก แต่ก็เป็นมรดกของชนชาติไทยที่คนไทยทุกคนควรเห็นคุณค่า ปกปักรักษาและหวงแหนไว้ เพราะมรดกที่น่านให้ไว้กับโลกนั้นงดงามล้ำค่าหาที่เปรียบมิได้ และแม้ที่ผ่านมาน่านจะสูญเสียโอกาสในการพัฒนาตัวเองให้มั่งคั่งและทันสมัย เพราะน่านเป็นเมืองปิดอยู่ในหุบเขาอันห่างไกล แต่น่านก็ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า ความไม่ทันสมัยในวิถีน่านที่ดำเนินผ่านกาลเวลามานานนับศตวรรษ นี้เอง ที่ทำให้น่านในวันนี้รวย “ความสุข”

ไปแอ่วน่าน แล้วคุณจะฮักน่าน…

ไปกอดน่าน แล้วคุณจะหายเหนื่อย…

นักเที่ยว…ห้ามพลาด

ที่สุดแห่งอารยธรรมลุ่มน้ำน่าน ต้องยกให้งานประเพณีแข่งเรือเมืองน่าน ที่มีเรือเข้าแข่งขันประชันฝีพายเพื่อชิงถ้วยพระราชทานมากที่สุดสนามหนึ่งในประเทศไทย!

การแข่งเรือเป็นมรดกตกทอดของคนน่านที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาและวิถีชีวิตของคนต้นน้ำน่าน ทุกๆ ปีในช่วงเทศกาลแข่งเรือเมืองน่านที่เงียบสงบก็กลับคึกคัก ทั้งเมืองเต็มไปด้วยชาวน่านจากทั่วจังหวัด ทั้งนักกีฬาและกองเชียร์มารวมตัวกันเพื่อชมความงามของขบวนเรือแข่ง และเพื่อแสดงความสามัคคีของคณะตนให้โลกได้เห็น ไปเที่ยวน่านช่วงนี้จึงจะได้ชื่นชมความงดงามของประเพณีที่สืบทอดมายาวนานหลายชั่วอายุคน ได้ช่วยกันสืบสานและอนุรักษ์งานประเพณีแข่งเรือที่มีเอกลักษณ์นี้ไว้ต่อไป และที่สำคัญคือได้ช็อปแหลก เพราะมีการออกร้านขายของที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในรอบปีด้วย

งานประเพณีแข่งเรือเมืองน่านจัดขึ้นทุกปี เริ่มแข่งกันตั้งแต่ราวเดือนสิงหาคมไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศราวเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน โดยกำหนดการอาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี เก็บเกี่ยวความรู้เรื่องการแข่งเรือประเพณีจังหวัดน่านและดูรายละเอียดกำหนดการแข่งขันได้ที่ www.nanlongboat.com

• นั่งรถรางเที่ยวรอบสะดือเมืองเก่าน่านใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 16.30 น. วันเสาร์และอาทิตย์เพิ่มรอบเช้า เวลา 10.30 น. ด้วย อัตราค่าบริการผู้ใหญ่คนละ 30 บาท เด็กและพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยคนละแค่ 15 บาท วันเด็กแห่งชาติให้บริการฟรีอีกต่างหาก และถ้ามากับฝูงเพื่อนหรือครอบครัวขนาดใหญ่มากถึงมากที่สุด ก็สามารถเหมารถรางเที่ยวแบบส่วนตัวนอกเหนือจากเวลาให้บริการปกติได้ในราคาเพียงเที่ยวละ 500 บาท นั่งได้ตั้ง 24 คน แต่ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ตั้งแต่เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ อาจมีนักท่องเที่ยวเยอะกว่าจำนวนที่นั่งในรถราง เพื่อความแน่นอนจึงควรจองล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ ติดต่อจองได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน
• โครงการ “นั่งสามล้อผ่อเมืองเก่าน่าน” บริการแสนประทับใจ คิดค่าบริการถีบแค่ชั่วโมงละ 100 บาทเท่านั้น ทางเทศบาลเมืองได้ประสานงานกับทีมแข้งเหล็กประจำเมืองน่าน และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทั่วเมืองไว้เป็นอย่างดีแล้ว สามารถติดต่อเรียกหานักถีบมาประจำกายคุณได้จากทั่วทุกมุมของเมือง หรือติดต่อได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน
• เช่ารถมอเตอร์ไซค์ รถมอเตอร์ไซค์วิบาก และรถจักรยาน ขี่เที่ยวชมเมืองน่านได้ที่ร้านอัลติเมท แอดเวนเจอร์ ถนนมหาวงด์ โทร. 0-5477-5526, 08-7303-5182 เหล่านักบิดหัวใจบิ๊กไบค์ทั้งหลายสามารถปรึกษา และหาข้อมูลเส้นทางขี่มอเตอร์ไซค์ไปหลวงพระบางจากด่านห้วยโกนได้ที่นี่ เขามีจัดทริปขี่ไปกันอยู่เนืองๆ
• ห้างใหญ่ของน่านคือ ห้างนราไฮเปอร์มาร์ท มีสองสาขาอยู่ใจกลางเมืองน่านบนถนนสุมนเทวราช ไม่ไกลกันเท่าไร ราคาสินค้าบางอย่างถูกกว่าในกรุงเทพฯ แถมมีสินค้าให้เลือกหลากหลายกว่าด้วย สนับสนุนให้อุดหนุนคนเมือง ช่วยกันกระจายรายได้ไปยังท้องถิ่นกันนะ
• ที่บริเวณช่วงเมืองน่านทุกเย็นวันศุกร์-เสาร์จะมีกาดขายอาหารพื้นเมือง เลือกซื้ออาหารจากร้านค้าแล้วไปนั่งกินขันโตกที่จัดวางไว้กลางลานข่วงเมืองกันได้ ขับกล่อมด้วยเสียงสะล้อซอซึงจากเวทีแสดงดนตรีและวัฒนธรรม ดื่มด่ำบรรยากาศแห่งดินแดนล้านนาตะวันออกกันได้เต็มเหนี่ยว
• คนหัวใจศิลปะแนะนำให้ขับรถออกนอกเมืองไปดื่มด่ำงานศิลป์ที่หอศิลป์ริมน่าน อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1080 มุ่งหน้าอำเภอท่าวังผา ห่างจากอำเภอเมืองน่านประมาณ 20 กิโลเมตร มีนิทรรศการแสดงงานศิลปะของศิลปินจากหลากหลายแขนงหมุนเวียนกันไป เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันพุธและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 9.00 น.-17.00 น. สอบถามเพื่มเติมได้ที่หมายเลข 0-5479-8046,08-1898-2912
• ท่าอากาศยานน่าน โทร.0-5471-0270 สถานีขนส่งจังหวัดน่าน โทร.0-5471-0027 ประชาสัมพันธ์ สถานีขนส่งจังหวัดน่าน โทร.0-5471-1662
• ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดน่าน โทร.0-5471-0216 หรือ 1155 สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเมืองน่านได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน ใกล้วัดภูมินทร์ โทร.0-5475-0247, 0-5475-1169

วีดีโอเกี่ยวกับ…ท่องเที่ยวอำเภอเมืองน่าน

การเดินทางไป…อำเภอเมืองน่าน

อาจดูเหมือนระยะทางยาวไกล เพราะต้องเดินทางผ่านเส้นทางอันคดเคี้ยว เลี้ยวเลื้อยไปตามแนวเขายาวเหยียดเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด แต่แท้จริงแล้วระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงอำเภอเมืองน่านนั้นไม่ได้ไกลอย่างที่คิด คำนวณแล้วพอๆ กับไปเชียงใหม่นั่นแหละ

• ถ้าไปรถส่วนตัว ออกจากกรุงเทพฯให้ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) แล้วแยกใช้ทางหลวงหมายเลข 32 และหมายเลข 1 ตามลำดับ ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี อุทัยธานี ไปจนถึงนครสวรรค์ แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 117 ไปจนถึงจังหวัดพิษณุโลก จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านจังหวัดอุตรดิตถ์ไปจนถึงอำเภอเด่นชัย แล้วเลี้ยวขวาใช้ทางหลวงหมายเลข 101 ผ่านจังหวัดแพร่ อำเภอร้องกวาง อำเภอเวียงสา ไปจนถึงอำเภอเมืองน่าน รวมเป็นระยะทางประมาณ 670 กิโลเมตร ใช้เวลาราวๆ 9 ชั่วโมง
• สำหรับผู้ไม่ประสงค์จะขับรถไปเอง มีรถโดยสารประจำทางออกจากกรุงเทพฯ จากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ไปจังหวัดน่านทุกวัน ติดต่อสอบถามเวลาเดินรถและจองตั๋วได้ที่ บริษัทสมบัติทัวร์ จำกัด โทร. 0-2792-1444 เว็บไซต์ www.sombattour. com หรือบริษัทขนส่ง จำกัด โทร. 1490 เว็บไซด์ www.transport.co.th และจองตัวรถทัวร์ออนไลน์ได้ที่ www.thaiticketmajor.com หรือ www.thairoute.com
• นอกจากนี้ยังมีรถทัวร์วิ่งระหว่างน่านและจังหวัดใกล้เคียงด้วย ตรวจสอบเส้นทางและตารางเวลาเดินรถได้ที่ กรีนบัส สำนักงานน่าน โทร. 0-5471-0760, 0-5471-0737 เว็บไซต์ www.greenbusthailand.com
• หากคุณมีเวลาน้อยและมีงบประมาณเพียงพอละก็ ขอโปรดจงนั่งเครื่องบินไปเถิดจะเกิดความสบาย ปัจจุบันมีสายการบินต้นทุนต่ำเปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างจังหวัดน่านและกรุงเทพฯ รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ในราคาไม่แพง นั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปน่านใช้เวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีเท่านั้น เร็วทันใจกว่ากันเยอะ ติดต่อสอบถามตารางเวลาเดินทางและจองตั๋วได้ที่ นกแอร์ โทร. 1318, 0-2900-9955 เว็บไซต์ www.nokair.com สายการบินโซล่าร์แอร์ โทร.0-2535-2455-6, 08-2103-5656 เว็บไซต์ www.solarair.co.th สายการบินแฮปปีแอร์ โทร. 0-2134-8000 เว็บไซต์ www.happyair.co.th สายการบินกานต์แอร์ (ให้บริการเที่ยวบินระหว่างน่าน-เชียงใหม่) โทร. 0-2551-6111 เว็บไซต์ www.kanairlines.com

Google maps อำเภอเมืองจังหวัดน่าน