อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ จังหวัดอุบลราชธานี

Google Plus
Line
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ

ภาพโดย Amazing Thailand จาก flickr.com/photos/amazingthailandalwaysamazesyou

อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 33 ของประเทศ มีเนื้อที่ประมาณ 50,000 ไร่ หรือ 80 ตารางกิโลเมตร โดยครอบคลุมท้องที่อำเภอโขงเจียม และอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบและเนินเขาเตี้ยๆ โดยมียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุด ความสูงประมาณ 543 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่านตามแนวเขตทางด้านทิศเหนือไปออกประเทศลาว บริเวณแก่งตะนะจะมีสายน้ำที่ไหลเชี่ยวและลึก อีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง จึงทำให้มีปลาอาศัยอยู่ชุกชุม ตรงกลางมีโขดหินขนาดใหญ่เป็นเกาะกลางน้ำ

แก่งตะนะ

ภาพโดย Papa Paul จาก panoramio.com/photo/53933975

คำว่า “ตะนะ” ตามคำเล่าขานของชาวบ้านเป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า “มรณะ” เนื่องจากบริเวณแก่งตะนะนี้มีกระแสน้ำไหลที่เชี่ยวกราก และมีโขดหินใหญ่น้อยอยู่ทั่วไป ตลอดจนมีถ้ำใต้น้ำอยู่หลายแห่ง ชาวบ้านที่สัญจรทางน้ำหรือออกจับปลา มักประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ ชาวบ้านจึงเรียกแก่งนี้ว่า “แก่งมรณะ” ซึ่งต่อมาเพี้ยนเป็นคำว่า “แก่งตะนะ”

สภาพพื้นที่ทั่วไปส่วนใหญ่เป็นที่ราบ และเนินเขาเตี้ยๆ มีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่าน มียอดเขาที่สูงที่สุดคือ ยอดเขาบรรทัด สูงประมาณ 543 เมตร ทำให้มีลักษณะภูมิอากาศจัดอยู่ในเขตลมมรสุม แต่เนื่องจากอยู่ใกล้แม่น้ำสำคัญสายใหญ่ 2 สาย อากาศจึงแตกต่างจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยทั่วไป คือ ฤดูร้อน อากาศจะไม่ร้อนจนเกินไป ฤดูหนาว ไม่หนาวจัด ส่วนฤดูฝน ฝนตกค่อนข้างชุก สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในฤดูฝนและฤดูหนาวจะมีผู้มาเที่ยวชมแม่น้ำมูล แม่น้ำโขง และน้ำตกต่างๆ ส่วนในปลายฤดูหนาวและฤดูร้อน นิยมมาเที่ยวชมแก่งต่างๆ ในลำน้ำมูลแทน

ลิงก์ผู้สนับสนุน
สายน้ำ แก่งตะนะ

ภาพโดย prasom จาก flickr.com/photos/wwwp-esancom

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของอุทยานมีทั้งด้านประวัติศาสตร์ ที่คุณไม่ควรพลาดคือการได้มาชมถ้ำพระ หรือถ้ำภูหมาใน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นชะง่อนผายื่นเข้าไปในฝั่งแม่น้ำมูล ภายในถ้ำมีการค้นพบศิลาจารึกและแท่นศิวลึงค์ ส่วนของฐานโยนีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 ซึ่งตรงกับช่วงสมัยพระเจ้าศรีมเหนทรวรมัน (เจ้าชายจิตรเสน) ส่วนศิลาจารึกของจริงได้มีการนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอุบลราชธานี ส่วนที่เที่ยวทางธรรมชาติมีทั้งน้ำตกและแก่งหินในลำน้ำในแม่น้ำมูล ที่คุณไม่ควรพลาดคือการมาเที่ยวพักผ่อนเล่นน้ำและชมวิวที่แก่งตะนะ ซึ่งลักษณะของแก่งเกิดจากดอนตะนะที่แบ่งสายน้ำมูลออกเป็นสองสาย ก่อนจะไหลโอบดอนมารวมกันอีกครั้งหนึ่ง บริเวณนี้มีกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากและแก่งหินใต้น้ำ จึงทำให้ปลาบริเวณแก่งตะนะชุกชุม

สายน้ำ แก่งตะนะ

ภาพโดย Amazing Thailand จาก flickr.com/photos/amazingthailandalwaysamazesyou

นอกจากนี้ทางอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะยังได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไว้สำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อเดินศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง เส้นทางแรกเริ่มต้นจากแก่งตะนะไปยังลานผาผึ้ง และเส้นทางที่สองที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือจากแก่งตะนะไปดอนตะนะ ซึ่งด้านบนของดอนจะมีหาดทรายในช่วงฤดูหนาวและฤดูแล้งให้ลงเล่น ด้วยสิ่งที่ทำให้ดอนตะนะดูโดดเด่นคือสะพานแขวนลวดสลิงขนาดใหญ่ที่แขวนเชื่อมจากฝั่งแม่น้ำมูล ซึ่งเป็นจุดชมวิวลำน้ำมูลและวิวแก่งได้อย่างสวยงามอีกด้วย ส่วนที่ลานผาผึ้งนั้นเป็น พลาญหินทรายและหน้าผาชันที่มีวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม มองเห็นภูมิทัศน์ได้กว้างไกลถึงประเทศลาวเลยทีเดียว

สะพานแขวน อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ

ภาพโดย Kot-Adventure จาก panoramio.com/photo/37074892

ส่วนใครที่ชอบการเที่ยวน้ำตก ที่นี่มีน้ำตกตาดโตนให้คุณได้เที่ยวพักผ่อนเล่นน้ำได้ด้วย เป็นน้ำตกที่เดินทางสะดวกเพราะตั้งอยู่ริมถนน ต้นน้ำเกิดจากลำห้วยตาดโตน ไหลผ่านลำธารหินที่ยุบตัวลงเกิดเป็นน้ำตกชั้นไม่สูงนัก แต่มีสายน้ำที่สวยงามในช่วงฤดูฝน มีจุดให้คุณได้ลงเล่นน้ำได้ทั้งด้านบนน้ำตกและแอ่งน้ำด้านล่าง ช่วงเวลาท่องเที่ยวน้ำตกตาดโตนคือตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ธันวาคม

นอกจากนี้ยังมีน้ำตกที่น่าเทียวอีก 2-3 แห่ง แม้ว่าจะเป็นน้ำตกเล็กๆ แต่ก็ทำให้คุณเพลิดเพลินได้ไม่น้อย เช่น น้ำตกและบึงห้วยหมาก น้ำตกห้วยกว้าง และน้ำตกรากไทร

น้ำตกตาดโตน อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ

ภาพโดย Köhler Martin จาก panoramio.com/photo/66104022

ข้อมูลเกี่ยวกับ…อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อุบลราชธานี

ที่ตั้ง : สุดถนนทางหลวงหมายเลข 2296 ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีประมาณ 90 กิโลเมตร

การเดินทาง : คุณสามารถเดินทางมาได้ 2 เส้นทาง คือ

  • จากจังหวัดอุบลราชธานีใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 217 ผ่านอำเภอวารินชำราบ กิ่งอำเภอสว่างวีระวงศ์ ถึงอำเภอพิบูลมังสาหาร แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2173 ผ่านอำเภอสิรินธร ถึงสามแยกตลาดนิคม 2 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2296 สุดทางจะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
  • จากจังหวัดอุบลราชธานีไปตามเส้นทางเดียวกับเส้นทางแรก เมื่อถึงอำเภอพิบูลมังสาหารเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานพิบูลมังสาหาร 200 ปี แล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 2222 (ถนนพิบูลมังสาหาร-โขงเจียม) ผ่านอำเภอโขงเจียม ข้ามสะพานโขงเจียมไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2173 ถึงบ้านหนองชาด ซึ่งห่างจากอำเภอโขงเจียม 6 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2296 สุดเส้นทางถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ

ช่วงเวลาท่องเที่ยว : ตลอดปี ช่วงที่สวยงามที่สุดคือ ปลายฝนต้นหนาว

สิ่งอำนวยความสะดวก : ภายในอุทยานมีบ้านพัก จำนวน 4 หลัง พักได้ตั้งแต่ 5-10 คน มีห้องน้ำพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น และพัดลม นอกจากนี้ยังมีค่ายพักเยาวชนอีก 2 หลัง พักได้ 25 คน/หลัง รวมถึงลานกางเต็นท์ที่กว้างขวาง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เตรียมเต็นท์พักแรมมาเอง สามารถติดต่อขอเช่าได้จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานฯ หรือจะเตรียมมาเองก็ได้ ส่วนร้านอาหารมีบริการทั้งร้านค้าสวัสดิการ และร้านอาหารของชาวบ้านที่บริการอยู่ริมแก่งตะนะ การจองบ้านพักคุณสามารถจองผ่านระบบออนไลน์ทางอินเตอร์ที่ www.dnp.go.th

ติดต่อ-สอบถาม : อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ โทรศัพท์ 045-249-802, 045-249-380, 045-442-002

ลิงก์ผู้สนับสนุน
Google Plus
Line